😱😱พรุ่งนี้วันจันทร์!!!!!! พร้อมกันรึยังคะสำหรับการกลับลงสู่สมรภูมิของการทำงาน
เชื่อว่านาทีนี้ไม่ว่าจะพนักงานงานราชการ เอกชน หรืองานค้าขาย ต่างก็มีการแข่งขันสูง ทำให้แต่ละคนต่างก็ทุ่มเทกำลัง ความคิดและเวลาเพื่อให้ผลงานที่ดี ดังนั้น จึงไม่แปลกเลยที่เราจะเห็นวัฒนธรรมในการทำงานที่เคร่งเครียด จริงจังมากขึ้น หลายคนมีเวลาทำการ 8 ชั่วโมงแต่ทำงานจริง 12 โมง หลายคนต้องมาทำงานในวันหยุด หลายคนยึดที่ทำงานเป็นบ้าน และมีอีกหลายคนทำให้บ้านกลายสภาพเป็นที่ทำงาน
เราเองก็เป็นคนหนึ่งที่ใช้ชีวิตติดอยู่กับการทำงาน มานานกว่า 15 ปี ทำงานเพราะความเคยชิน ทำเพราะไม่รู้ว่าถ้าไม่ทำงานก็ไม่รู้ว่าจะทำอะไร จนมาวันหนึ่งที่เราเริ่มรู้สึกว่า ตัวเองถอยห่างจากครอบครัว ห่างจากเพื่อนที่กลุ่มที่ไม่ใช่เพื่อนร่วมงาน ทำไมชีวิตเราไม่มีกิจกรรมอื่นๆ และเมื่อคิดจะดึงตัวเองกลับมาหาครอบครัวและเพื่อน ผู้หวังดีทั้งหลายก็ส่งถุงยังชีพที่มีคีย์เวิร์ดว่า "Work Life Balance" มาให้
....ด้วยความฉลาดอย่างเรา ได้คีย์เวิร์ดมา ก็ออกตามหารักแท้ หาไปสิว่าบริษัทไหน องค์กรไหน ที่ให้สวัสดิการดี, มี Work Life Balance (ฝันหวานถึง Google เลย) และโลกใบนี้ก็สอนให้รู้ว่ารักแท้ไม่มีอยู่จริงค่ะ ไม่มีบริษัทที่ไหนกล้า(บ้า) ใส่สวัสดิการเป็น "Work Life Balance" เลย เราก็เลยกลับมาตั้งหลักใหม่ พยายามเรียกร้องให้บริษัทที่ทำอยู่เห็นความสำคัญและสร้าง "Work Life Balance" ขึ้นมา
แต่สุดท้ายเราได้เรียนรู้ว่าจริงๆแล้ว สมดุลของเรา ตัวเรารู้ดีที่สุด ปัจจัยภายนอกเราควบคุมไม่ได้แต่ปัจจัยภายในเราควบคุมตัวเองได้ Work Life Balance ของเรา เราต้องสร้างและกำหนดเอง
❍เริ่มต้นจากสังเกตุพฤติกรรมของตัวเอง
❍จัดกลุ่มงานและกิจกรรมที่ทำ
❍ตั้งเป้าหมาย-สิ่งที่อยากทำ
❍แบ่งเวลาในการทำงานให้ชัดเจน
❍วางตารางกิจกรรมที่อยากทำไว้คร่าว ๆ
และสิ่งสำคัญที่สุด คือ ต้องลงมือทำ พยายามปรับพฤติกรรมตัวเองให้ได้
หลากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น ช่วงชีวิตที่ต่างวัย วิธีการทำงาน และการให้ความสำคัญ(Priority)ที่ต่างกัน ก็ทำให้ Work Life Balance ของแต่ละคนต่างกันออกไป อย่างเช่น คนที่ให้ความสำคัญกับการสร้างฐานะกับคนให้ความสำคัญกับสุขภาพและครอบครัว หรือคนวัย 35 กับคนวัย 55 ก็ย่อมมี Work Life Balance ที่ต่างกัน
สำหรับเรา Work Life Balance ไม่ได้หมายถึง การทำงาน 8 ชม.ได้กลับบ้าน 5 โมงเย็น ออกกำลังกายวันละ 30 นาทีแล้วนอนวัน 6 ชั่วโมง แต่เป็นการทำงานหนักทั้งสัปดาห์ในต้นเดือน เพื่อจะมีเวลากลับไปทำกิจกรรมหลังเลิกงานในสัปดาห์ถัดไป มีเวลาได้อยู่กับครอบครัว มีเวลาอยู่กับตัวเอง พักผ่อน ท่องเที่ยว และเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
จุดสมดุลไม่ใช่จุดที่ชีวิต 2 ด้านต้องเท่ากัน แต่จุดสมดุลคือจุดที่ 2 ด้านทำให้เราพอใจ
✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣
Thank you for visting my post
Thank you for all comments and upvotes
✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣
บทความมีประโยชน์มากๆ..เป็นแนวทางการใช้ชีวิตที่ดีเยี่ยมเลยค่ะ
ขอบคุณค่ะ จริงๆแล้วสุดท้ายทุกอย่างอยู่ที่ตัวเรา ใจเราค่ะ
อายุและประสบการณ์ จะบอกเราได้ว่า สิ่งไหนคือสิ่งที่เราต้องการมากที่สุด...เป้าหมายชีวิตของคนเราต่างกัน แต่เป้ารวมสูงสุดคือความสุขและความสบายใจ
ตอนนี้เลือกทำในสิ่งที่ “ทำน้อย แต่ได้มาก”
ตัดเรื่องของคนอื่นออกไปก็ช่วยได้เยอะ 😋
Congratulations @psanim! You have completed the following achievement on Steemit and have been rewarded with new badge(s) :
You got your First payout
Award for the number of upvotes
Click on the badge to view your Board of Honor.
If you no longer want to receive notifications, reply to this comment with the word
STOP
To support your work, I also upvoted your post!
Do not miss the last post from @steemitboard:
SteemitBoard World Cup Contest - Final results coming soon